แปลเพลง Why – NF

แปลเพลง Why

[Intro]
Too many faces, too many faces, too many faces
หลายหน้าเหลือเกิน หลายหน้าเหลือเกิน หลายหน้าเหลือเกิน
[Verse]
Yeah, what’s your definition of success? (ayy!)
เย่, คุณนิยามคำว่าสำเร็จไว้อย่างไร ?
I don’t trust the thoughts that come inside my head (woo!)
ฉันไม่เชื่อความคิดที่เข้ามาในหัวฉัน
I don’t trust this thing that beats inside my chest
ฉันไม่เชื่อสิ่งที่เต้นอยู่ใต้อกฉัน
Who I am and who I wanna be can not connect; why?
ฉันเป็นใครและอยากจะเป็นใครไม่สัมพันธ์กัน ทำไมนะ
Don’t think I deserve it? You get no respect (woo!)
คิดว่าฉันไม่เหมาะสมหรอ? เธอไม่เคารพกันเลยนะ
I just made a couple mil’, still not impressed
ฉันทำเงินได้แค่สองสามล้าน ยังไม่ประทับใจอีกหรอ
Let You Down goes triple platinum, yeah, okay, okay, I guess (ayy!)
ฉันคิดว่าทำให้เธอผิดหวังไปกับ triple platinum
Smile for a moment then these questions startin’ to fill my head, not again!
ไม่มีอีกแล้วที่จะยิ้มให้กับคำถามเหล่านั้นที่เริ่มเข้ามาในหัวฉัน
I push away the people that I love the most; why? (woo!)
ฉันผลักไสผู้คนที่ฉนรักมากที่สุด ทำไมนะ
I don’t want no one to know I’m vulnerable; why? (woo!)
ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันเปราะบาง ทำไมนะ
That makes me feel weak and so uncomfortable; why? (ayy!)
สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกอ่อนแอและไม่สะดวกสบาย ทำไมนะ
Stop askin’ me questions, I just wanna feel alive
หยุดถามฉัน ฉันแค่อยากรู้สึกมีชีวิตชีวา
Until I die—this isn’t Nate’s flow (woo!)Just let me rhyme; I’m in disguise
จนกว่าฉันตาย – นี่ไม่ใช่ ปล่อยให้ฉันเขียนบทกวี ฉันกำลังปิดบัง
I’m a busy person, got no time for lies; one of a kind
ฉันเป็นคนที่ยุ่ง ไม่มีเวลาให้กับคำโกหก
They don’t see it; I pull out they eyes; I’m on the rise!
พวกเขาไม่เห็นมัน ฉันทำให้พวกเขายอมรับ ฉันกำลังเพิ่มขึ้น
I’ve been doin’ this for most my life with no advice (woo!)
ฉันพยายามทำสิ่งพวกนี้ตลอดชีวิตของฉันโดยไม่มีคำแนะนำ
Take my chances, I just roll the dice, do what I like
ใช้โอกาสจากฉัน ฉันแค่ทอยลูกเต๋า ทำสิ่งที่ฉันต้องการ
As a kid, I was afraid of heights, put that aside
ตอนเป็นเด็ก ฉันกลัวความสูง
Now I’m here and they look so surprised, well so am I, woo!
ตอนนี้ฉันทำให้พวกเขาเซอไพรส์
They don’t invite me to the parties but I still arrive
พวกเขาไม่เชิญฉันไปปาร์ตี้แต่ฉันก็ไป
Kick down the door and then I go inside
เปิดประตูและเดินเข้าไปข้างใน
Give off that “I do not belong here” vibe
ไม่สนใจคำที่ว่า ‘ฉันไม่เหมาะกับที่นี่’
Then take the keys right off the counter, let’s go for a ride
และกำกุญแจบนเคาเตอร์ ไปซิ่งกันแถอะ
Why do y’all look mortified? (ayy!)
ทำไมทุกคนดูอับอาย?
I keep to myself, they think I’m sorta shy, organized
ฉันเก็บไว้กับตัวเอง พวกเขาคิดว่าฉันเป็นพวกขี้อาย
Let You Down’s the only song you’ve heard of? Well then you’re behind (woo!)
‘ทำให้คุณผิดหวัง’เพลงเดียวที่คุณเคยฟัง ถ้างั้นคุณก็ตามไม่ทันแล้วหละ
Story time; wish that I could think like Big Sean does, but I just can’t decide (aah!)
เวลานิทาน : ฉันหวังว่าจะทำอย่าง บิ๊กชอน แต่ฉันก็ไม่สามารถตัดสินใจได้
If I should stick my knife inside of Pennywise
ถ้าฉันสามารถปักมีดลงไปใน pennywise
I, I don’t care what anybody else thinks—lies (haha!)
ฉัน ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไง – โกหกหนะ (55!)
I do not need nobody to help me—lies
ฉันไม่ต้องการใครให้มาช่วยฉัน – โกหกอีกแล้ว
I kinda feel guilty ’cause I’m wealthy; why?
ฉันค่อนข้างรู้สึกผิด เพราะฉันร่ำรวย ทำไมนะ?
I don’t understand, it’s got me questionin’ like, “Why?
ฉันไม่เข้าใจ มันทำให้ฉันสงสัย ทำไมนะ?
Just tell me why“—not back to this flow Inside I feel divided
แค่บอกฉันมา-ไม่กลับมายังวงเวียนเดิมอีก ข้างในนี้ฉันรู้สึกแปลกแยก
Back when I ain’t had a dime, but had the drive
กลับมาตอนที่ฉันไม่มีแม้ 10 เซนต์ แต่มีพลังที่จะสู้
Back before I ever signed, I questioned life, like, “Who am I, man?” Woo!
กลับไปตอนที่ฉันยังไม่เคยเซ็นสัญญา ฉันมีคำถามกับชีวิตว่า ‘ฉันเป็นใคร?’
Nothin’ to me’s ever good enoughI could be workin’ for twenty-four hours a day and think I never did enough
ไม่มีอะไรดีพอสำหรับฉันสักอย่าง ฉันทำงานวันละ 24 ชม. แต่คิดว่าไม่เคยพอ
My life is a movie but there ain’t no tellin’ what you’re gonna see in my cinema (no!)
ชีวิตฉันเหมือนละครแต่ก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนในหนังหรอกนะ
I wanna be great but I get it in the way of
myself and I think about everything that I could never be
ฉันอยากยิ่งใหญ่แต่ฉันก็ได้แค่คิด คิดถึงทุกๆอย่างที่ไม่เคยเคยเป็นได้
Why do I do it though? Ayy, yeah
ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นนะ ?
Why you always lookin’ aggravated?
ทำไมเธอชอบซ้ำเติมนะ?
Not a choice, you know I had to make it
ไม่มีทางเลือก, เธอรู้ว่าฉันต้องตัดสินใจ
When they talk about the greatest, they gon’
probably never put us in the conversation
Like somethin’ then I gotta take it
เมื่อคนพูดถึงคำว่ายิ่งใหญ่ พวกนั้นไม่ได้ใส่คำว่า’เรา’ลงไปในสนทนา เหมือนสิ่งที่ฉันต้องยอมรับมัน
Write somethin’ then I might erase it I love it, then I really hate it
เขียนบางอย่างขึ้นมาแล้วฉันอาจจะลบมันทิ้งก็ได้ บางทีฉันก็รักมัน จากนั้นก็เกลียด
What’s the problem, Nathan? I don’t know!
ปัญหามันอยู่ที่ไหน นาธาน ? ฉันก็ไม่รู้!
I know I like to preach to always be yourself (yeah)
ฉันรู้ว่าฉันชอบที่จะสอนให้เธอเป็นตัวของตัวเอง
But my emotions make me feel like I am someone else
แต่อารมณ์ของฉันทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนอื่นMe and pride had made a pact that we don’t need no help
ฉันและความภูมิใจทำให้มีผลกระทบที่เราไม่ต้องการให้ใครมาช่วย
Which feels like I’m at war inside myself but I forgot the shells
ซึ่งเหมือนฉันอยู่ในสงครามกับตัวเองแต่ลืมเปลือกนอก
I hold my issues up for all to see, like show and tell
ฉันทนอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างที่เห็นและบอกไป
A lot of people know me, but not a lot know me well
หลายคนรู้จักฉันก็จริงแต่ไม่มีใครรู้จักฉันดีพอ
Hold my issues up for all to see, like show and tell
ฉันทนอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างที่เห็นและบอกไป
A lot of people know me, but they don’t know me well
หลายคนรู้จักฉันก็จริงแต่ไม่มีใครรู้จักฉันดีพอ

Leave a Reply